ณ หมู่บ้านเล็กๆแสนไกลในหุบเขาที่งดงาม มีชายหนุ่มสองคนเป็นเพื่อนรักกันอาศัยอยู่ ชื่อ ปาโปนและบูโน่ พวกเขายังหนุ่มแน่นและพูดถึงชีวิตที่ดีกว่าสำหรับพวกเขาเอง พวกเขาจะพูดถึงความใฝ่ฝันของพวกเขาเสมอ ในการที่พวกเขาจะเป็นคนหนุ่มที่ประสบความสำเร็จที่สุดในหมู่บ้าน พวกเขาไม่กลัวงานหนักและมองหาโอกาสที่จะช่วยให้ความใฝ่ฝันของพวกเขาเป็นความจริง พวกเขาคุยกันทุกๆวันมองหาหนทางและมองหาโอกาสเพื่อให้ความฝันของพวกเขาเป็นความจริงขึ้นมาได้ วันหนึ่งโอกาสนั้นก็มาถึง ผู้นำหมู่บ้านมีความคิดที่จะนำน้ำตกจากภูเขามาใช้งานในหมู่บ้าน เขาตัดสินใจว่าจ้างคนสองคนให้นำน้ำจากน้ำตกบนภูเขานำลงมาใช้ในหมู่บ้าน พวกเขาจะได้รับค่าจ้างตามปริมาณของน้ำที่นำลงมาสู่หมู่บ้าน ปาโปนและบูโน่รับงานมาทำอย่างกระตือรือร้น ทุกๆวันตั้งแต่เช้าจนเย็นพวกเขาทั้งสองคนไปขนน้ำลงจากหุบเขามาสู่หมู่บ้าน ไปกลับๆอยู่อย่างนั้น พวกเขาทำงานหนักเพื่อนำน้ำมาสู่หมู่บ้านในทุกๆเย็น พวกเขากลับบ้านพร้อมกับค่าจ้างในวันนั้นๆ บูโน่พึงพอใจกับงานที่ทำและรายได้ที่เขาได้รับ เขามั่นใจและแน่ใจว่าความฝันของเขาจะเป็นจริงจากงานๆนี้ บูโน่คิดว่าเขาจะได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้น ถ้าเขาใช้ถังน้ำที่ใหญ่ขึ้นเพื่อขนน้ำให้มากขึ้นในแต่ละวัน เขาเชื่อด้วยว่ารายได้ที่เขาได้มากขึ้นไม่นานเขาจะมีเงินมากพอ สามารถซื้อวัวและซื้อบ้านตามที่เขาเคยใฝ่ฝันถึง แต่ ปาโปนไม่ได้พอใจด้วย เมื่อสิ้นสุดวัน เขาปวดไปทั้งแขนและหลัง หมดเรี่ยวหมดแรง เขากำลังมองหาหนทางที่จะทำให้มันง่ายขึ้นในการทำเงินให้มากขึ้น และวันหนึ่งปาโปนก็คิดขึ้นมาได้ เขาจินตนาการถึงท่อส่งน้ำ เพื่อส่งน้ำจากน้ำตกบนภูเขาส่งไปยังหมู่บ้าน ด้วยท่อส่งน้ำนี้ เขาสามารถนำน้ำมาสู่หมู่บ้านได้มากขึ้น โดยไม่ต้องแบกถังน้ำไปกลับๆจากน้ำตกสู่หมู่บ้านอยู่อย่างนั้น เขาตื่นเต้นมากในงานนี้และเริ่มวางแผน แน่นอนปาโปนแบ่งปันความคิดนี้สู่บูโน่เพื่อนของเขา และขอให้บูโน่ร่วมทำงานกับเขา เพื่อสร้างท่อส่งน้ำนั้น แต่บูโน่กลับคิดว่ามันเป็นความคิดที่บ้าๆ สิ่งเดียวที่บูโน่คิดถึงก็คือ เงินที่เขาจะหาได้ในวันนี้และวิธีที่จะได้มันมาอย่างรวดเร็ว เขาคิดว่าการสร้างท่อส่งน้ำจะทำให้เขาเสียเวลาและทำให้เขาบรรลุเป้าหมายช้าลงไปอีก ด้วยสาเหตุนี้ บูโน่จึงใช้ถังน้ำที่ใหญ่ขึ้น ขนน้ำไปกลับๆถี่ขึ้น เขาแน่ใจว่าด้วยวิธีนี้ เขาจะทำเงินได้มากขึ้น ส่วนปาโปนตัดสินใจสร้างท่อส่งน้ำด้วยตัวของเขาเอง เขาเข้าใจดีว่ามันไม่ยาก แต่ต้องใช้เวลาเพื่อสร้างท่อส่งน้ำให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ ปาโปนรู้ว่ามันจะต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะสิ้นเสร็จลง แต่เขาตั้งใจในเป้าหมายของเขา ทุกๆวันเขาจะไปทำงานขนน้ำเหมือนเมื่อก่อน แต่ในทุกๆวันหยุดหรือเมื่อมีเวลาว่างหรือมีโอกาส เขาจะทำงานหนักเพื่อขุดหินขุดดิน เพื่อสร้างท่อน้ำตามความคิดของเขา ในเดือนแรกแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย บูโน่และชาวบ้านต่างหัวเราะเยาะและล้อเลียนเขา โดยตั้งสมญานามปาโปนว่า “มนุษย์ท่อ” ในระหว่างนี้เอง รายได้ของบูโน่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เขาได้ซื้อบ้านหลังใหญ่ขึ้นและวัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วตามที่หวังไว้ วิถีชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไป ตอนนี้เขาใช้เวลาหลังเลิกงานในร้านขายเหล้าและใช้เงินจากการหาบน้ำที่เขาได้มา สิ่งที่บูโน่ไม่ได้ตระหนักก็คือ ร่างกายของเขา เริ่มงุ้มงอกจากการต้องขนน้ำอย่างหนักทุกๆวัน ใบหน้ายับย่นและร่างกายเริ่มอ่อนล้าลง ไม่ช้าเขาเริ่มขนน้ำได้น้อยลงและน้อยลง เนื่องจากร่างกายของเขาได้อ่อนล้าและโรยแรง ส่วนปาโปนก็ยังตั้งหน้าตั้งตาทำงานสร้างท่อส่งน้ำต่อไป ไม่นานปีแรกก็เข้าสู่ปีที่สอง ท้ายที่สุด ปาโปน ได้สร้างท่อส่งน้ำได้สำเร็จเสร็จลง และเขาไม่ต้องแบกถังน้ำเพื่อไปกลับสู่หมู่บ้านอีกแล้วตอนนี้
ปาโปน ได้เงินมามากขึ้นกว่าครั้งไหนๆ น้ำก็ไหลลงสู่หมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งขณะที่เขากิน ดื่ม นอนหลับ เขาก็ยังได้เงินแม้กระทั่งในวันพักผ่อน น้ำก็ยังไหลอยู่ต่อเนื่อง ปาโปน มีความสุขเละภาคภูมิใจในความคิดที่เขายืนหยัด ตอนนี้รายได้ของเขาหลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย ตราบที่ยังมีน้ำไหลผ่านท่อของเขาเข้ามา เรื่องราวของบูโน่และปาโปน สามารถเทียบเคียงกับชีวิตพวกเราได้ว่า งานที่พวกเขาทำเปรียบเหมือนกับคนส่วนใหญ่ที่ทำในชีวิตเพื่อให้ได้เงินมา บูโน่ได้เงินมาจากการแบกถังน้ำ เขาไปกลับแบกถังน้ำเพื่อนำน้ำจากน้ำตกสู่หมู่บ้านเพื่อแลกกลับเงินที่ได้มา เพื่อเพิ่มรายได้เขาต้องเพิ่มจำนวนเที่ยวของการไปกลับๆเพื่อให้ได้ หรือไม่ก็ต้องใช้ถังน้ำที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้ได้น้ำมากขึ้น มันเป็นเรื่องปกติของชีวิตเรา เพื่อเพิ่มรายได้เราต้องทำงานให้หนักขึ้น ทำงานเพิ่มขึ้น เช่น ทำงานล่วงเวลาหรือแม้กระทั่งทำงานสองงานในขณะเดียวกัน เราเองก็เหมือนกันที่ต้องเพิ่มขนาดถังน้ำของเรา โดยการรับตำแหน่งที่สูงขึ้น รับรายได้ที่มากขึ้น บ่อยครั้งต้องใช้เวลามากขึ้นในที่ทำงาน เราส่วนใหญ่ใช้เวลาแลกกับเงิน เช่นเดียวกับบูโน่ เราต่างก็รู้ว่าเราทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมง ในแต่ละวันเหมือนๆกัน แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะใช้เวลา 24 ชั่วโมงนั้น เพื่อทำงานแต่เพียงอย่างเดียว ช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดจะผ่านเข้ามา เมื่อเราไม่สามารถใช้เวลาแลกกับเงินได้อีกต่อไป สืบเนื่องจากเรื่องอายุที่มากขึ้น สุขภาพหรือเหตุผลอื่น เมื่อนั้นรายได้ของเราจะหยุดลง ทีนี้เราจะมาทบทวนในสิ่งที่ปาโปนทำอย่างชาญฉลาด ปาโปนไม่ได้ใช้เวลาทั้งหมดที่เขามีอยู่มาแลกกับเงินจำนวนจำกัด แต่เขาใช้เวลาบางส่วนสร้างท่อส่งน้ำของเขาขึ้นมา รายได้ที่มีมาอย่างต่อเนื่องนี้ไม่ได้ขึ้นกับเวลาโดยตรงที่เขาต้องทำงานในแต่ละวัน ปาโปนรู้ว่าสักวันหนึ่ง อาจเป็นเรื่องสาเหตุของอายุและสุขภาพ เขาอาจไม่สามารถที่จะใช้เวลาที่มีอยู่แลกกับเงินที่จะได้อีกต่อไปแล้ว ปาโปนรู้ว่าถ้าเขาสามารถสร้างแนวความคิดเรื่องท่อส่งน้ำของเขาให้บังเกิดผลขึ้นมาได้ เขาก็เพียงแต่ต้องทำงานหนักเพียงครั้งเดียว หลังจากการสร้างท่อส่งน้ำสำเร็จเสร็จไปแล้ว ปาโปนสามารถเฝ้ามองดูการไหลของน้ำและทำให้มันไหลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่ารายได้ของเขายังเข้ามาเรื่อยๆ ปาโปนได้แสดงให้เราเห็นว่าเมื่อมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เราไม่จำเป็นต้องเอาเวลามาแลกกับเงินเสมอไป มันมีหนทางที่ดีกว่าจริงๆ แล้วคุณล่ะ คุณยังทำเช่นเดียวกับบูโน่ที่ต้องใช้เวลาแลกกับเงินอยู่หรือเปล่า? หรือคุณต้องการทำเช่นเดียวกับปาโปนผู้สร้างและคงไว้ซึ่งท่อน้ำเพื่อนำ รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย จากนิทานเรื่องนี้ก็เปรียบกับชีวิตจริงของเราได้ว่า ถ้างานแบบทั่วไป ถ้าเราอยากจะได้เงินเพิ่มขึ้นเราก็ต้องทำงานหนักขึ้น ทำโอทีเพิ่ม ยอมเหนื่อยมากกว่าเดิมเพื่อที่จะได้เงินเพิ่ม ทำให้ร่างกายเราทรุดโทรม แต่พอเมื่อใดที่เราทำไม่ไหว รายได้เหล่านั้นมันก็จะหายตามไปด้วย แต่จะมีงานอะไรไหม...ที่ทำจนสำเร็จ แล้วหยุดก็ยังมีรายได้ที่ต่อเนื่องเหมือนงานที่ปาโปน ต่อท่อน้ำไว้ใช้.... นั่นก็คือธุรกิจเครือข่ายไงที่เราจะสามารถสร้างระบบเหมือนสร้างท่อส่งน้ำไว้ใช้ไม่มีผิด....
สนใจธุรกิจเครือข่ายที่จะสร้างรายได้ให้ท่านอย่างต่อเนื่องไม่รู้จบ ..โทร 086-9106910
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น